โครงการ Project

Thailand HPV Cervical Cancer Free #เอชพีวีไม่รู้ไม่ได้แล้ว โครงการ Thailand HPV Cervical Cancer Free #เอชพีวีไม่รู้ไม่ได้แล้ว

รู้หรือไม่...มะเร็งปากมดลูก ป้องกันง่ายกว่ารักษา
 
มะเร็งปากมดลูก คร่าชีวิตผู้หญิงไทยเฉลี่ย 12 คนต่อวัน ปัจจุบันสถิติผู้หญิงไทยที่เป็นโรคมะเร็งปากมดลูกรายใหม่มีประมาณ 8,000รายต่อปี ทั้งๆที่ “มะเร็งปากมดลูก” เป็นหนึ่งในไม่กี่มะเร็งที่ป้องกันได้
  1.  Healthy Lifestyle ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ไม่มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย หรือการตั้งครรภ์เมื่ออายุน้อย ลดการมีคู่นอนหลายคน
  2.  Prevent ตรวจคัดกรอง มีผลการวิจัยค้นพบแล้วว่าสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดนึงที่เรียกว่า “เอชพีวี” ซึ่งไวรัสชนิดนี้มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่พบว่ามีประมาณ 14 สายพันธุ์ ที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อมะเร็งปากมดลูก โดยสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูกสูงถึง 70% โดยผู้หญิงที่ติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 มีความเสี่ยงในการพัฒนารอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูกสูงกว่าผู้หญิงทั่วไปถึง 35 เท่า ซึ่ง ณ ปัจจุบัน เรามีนวัตกรรมที่สามารถ “ตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี” ได้ถึง 14 สายพันธุ์ และยังสามารถระบุได้ว่าติดเชื้อไวรัสเอชพีวีสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ ซึ่งในปี 2563 ได้เพิ่มสิทธิให้สตรีไทยได้รับการตรวจคัดกรองด้วย HPV DNA เป็นการตรวจคัดกรองพื้นฐานของสุภาพสตรีเพื่อตรวจหารอยโรคก่อนมะเร็งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้แพทย์ควบคุมความเสี่ยง ซึ่งเป็นการป้องกันการเกิดโรคตั้งแต่แรกเริ่มที่ดีกว่าการตรวจ Pap smear ซึ่งเป็นการตรวจสอบเซลล์บริเวณปากมดลูกเพื่อหาเซลล์ที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นการตรวจคัดกรองเมื่อโรคได้เกิดขึ้นแล้ว
  3.  Vaccine ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวี ซึ่งหากจะฉีดวัคซีนให้ได้ผลและเกิดประโยชน์มากที่สุดนั้น ควรฉีดก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก หรือตั้งแต่ในเด็กอายุตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไป

 

Thailand HPV cervical cancer free

#เอชพีวีไม่รู้ไม่ได้แล้ว

รู้จัก ตรวจเช็ก ป้องกัน "ไวรัสเอชพีวี" ให้เมืองไทยปลอดโรคมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูก เกิดจาก ไวรัส ไม่ใช่ กรรมพันธุ์
มะเร็งปากมดลูก เป็นหนึ่งในมะเร็งเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถ ป้องกันได้
 
โรคมะเร็งปากมดลูก ไม่แสดงอาการจนกว่าโรคจะพัฒนาจนร้ายแรง 
แต่หากตรวจพบเร็ว จะมีโอกาสรักษาให้หายสูงถึงร้อยละ 98 ซึ่งวิธีการป้องกันไม่ยากเลย...
 
สาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก เกิดจากเชื้อ HPV 
เชื้อ Human Papilloma virus หรือ “HPV” เป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งปากมดลูก มีประมาณ 14 สายพันธุ์ ที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อมะเร็งปากมดลูก โดยสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้มากที่สุดถึง 70% และมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ มากกว่าคนที่ไม่ติดเชื้อ HPV ถึง 35 เท่า 
 
เราติดเชื้อ HPV จากที่ไหนบ้าง         
การติดเชื้อ HPV ที่พบบ่อย คือ การสัมผัสทางผิวหนัง เพราะฉะนั้นเพศสัมพันธ์จึงเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ติดเชื้อ HPV บริเวณปากมดลูก และอวัยวะเพศส่วนอื่นๆ รวมทั้งทวารหนัก อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อ HPV เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย และเป็นเรื่องธรรมดาสามัญซึ่ง 80% ของผู้หญิงเคยมีเชื้อ หรือกำลังมีเชื้อ HPV อยู่ในร่างกายโดยไม่รู้ตัว ถ้าร่างกายแข็งแรงเชื้อ HPV จะถูกกำจัดออกไปได้เอง แต่ถ้าร่างกายอ่อนแอการติดเชื้อดังกล่าวอาจพัฒนากลายไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ 
 
 
ดังนั้นเมื่อเราป้องกันไวรัส HPV ได้ ก็เท่ากับป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้
 

 
ตรวจก่อนพบ เพื่อให้แพทย์ได้ควบคุมความเสี่ยง
ณ ปัจจุบัน มีวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงด้วยการตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA) เพื่อจะบอกให้แพทย์ทราบว่าคุณเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ก่อนที่แพปสเมียร์จะสามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงในเซลล์ ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 10 ปี ถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และบางครั้งกว่าจะตรวจพบก็เข้าสู่มะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว ดังนั้นแนะนำให้สตรีในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือในกลุ่มสตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งสามารถตรวจได้ถึง 14 สายพันธุ์ และสามารถระบุได้ว่าเป็นการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 ที่มีความเสี่ยงสูงในการพัฒนารอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากการติดเชื้อ HPV มักไม่แสดงอาการ การตรวจหารอยโรคก่อนมะเร็งแต่เนิ่นๆจะช่วยให้แพทย์ควบคุมความเสี่ยงของคุณในการเป็นมะเร็งปากมดลูก และตัดสินใจเลือกวิธีรักษาโดยมีข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยชีวิตคุณได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม สตรีที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ก็ยังต้องเข้ารับบริการตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอทุกปี เพื่อปกป้องตนเองจากเชื้อไวรัส HPV และโรคมะเร็งปากมดลูก ภัยร้ายที่แฝงตัวอยู่ใกล้ตัวเรา
 
 
สร้างเกราะป้องกัน ด้วยการลดพฤติกรรมเสี่ยง และรับวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวี 
ปัจจุบันมีวัคซีนที่ป้องกันการติดเชื้อ HPV ซึ่งมีการใช้อย่างแพร่หลายในต่างประเทศทั่วโลก โดยสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยที่องค์การอนามัยโลกระบุว่าเหมาะสมที่สุดในการป้องกันหากได้รับวัคซีนตั้งแต่ในช่วงอายุนี้ ต่อไปเมื่อเติบโตขึ้นเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ จะได้มีภูมิคุ้มกันเตรียมพร้อมแล้ว ทั้งนี้การรับวัคซีนแนะนำให้ฉีดในสตรีอายุ 9-26 ปี โดยในเด็กช่วงอายุ 9-15 ปี รับวัคซีน 2 เข็ม ในเดือนที่ 0 และ 6  หากสตรีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป รับวัคซีน 3 เข็ม ในเดือนที่ 0, 1-2 และ 6 สำหรับสตรีที่อายุเกิน 26 ปี หรือคนที่เป็นโรคแล้ว สามารถรับวัคซีนได้แต่อาจได้รับประโยชน์น้อยลง หากเคยติดเชื้อเอชพีวีมาแล้ว อย่างไรก็ตาม หากเลยช่วงอายุดังกล่าวก็สามารถรับวัคซีนได้จนถึงช่วงอายุ 45 ปี หรือเข้ารับการปรึกษาแพทย์เพื่อให้คำแนะนำก่อนรับวัคซีน
 
รู้หรือไม่...มะเร็งปากมดลูก ป้องกันง่ายกว่ารักษา
 
มะเร็งปากมดลูก คร่าชีวิตผู้หญิงไทยเฉลี่ย 12 คนต่อวัน ปัจจุบันสถิติผู้หญิงไทยที่เป็นโรคมะเร็งปากมดลูกรายใหม่มีประมาณ 8,000รายต่อปี ทั้งๆที่ “มะเร็งปากมดลูก” เป็นหนึ่งในไม่กี่มะเร็งที่ป้องกันได้
  1.  Healthy Lifestyle ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ไม่มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย หรือการตั้งครรภ์เมื่ออายุน้อย ลดการมีคู่นอนหลายคน
  2.  Prevent ตรวจคัดกรอง มีผลการวิจัยค้นพบแล้วว่าสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดนึงที่เรียกว่า “เอชพีวี” ซึ่งไวรัสชนิดนี้มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่พบว่ามีประมาณ 14 สายพันธุ์ ที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อมะเร็งปากมดลูก โดยสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูกสูงถึง 70% โดยผู้หญิงที่ติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 มีความเสี่ยงในการพัฒนารอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูกสูงกว่าผู้หญิงทั่วไปถึง 35 เท่า ซึ่ง ณ ปัจจุบัน เรามีนวัตกรรมที่สามารถ “ตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี” ได้ถึง 14 สายพันธุ์ และยังสามารถระบุได้ว่าติดเชื้อไวรัสเอชพีวีสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ ซึ่งในปี 2563 ได้เพิ่มสิทธิให้สตรีไทยได้รับการตรวจคัดกรองด้วย HPV DNA เป็นการตรวจคัดกรองพื้นฐานของสุภาพสตรีเพื่อตรวจหารอยโรคก่อนมะเร็งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้แพทย์ควบคุมความเสี่ยง ซึ่งเป็นการป้องกันการเกิดโรคตั้งแต่แรกเริ่มที่ดีกว่าการตรวจ Pap smear ซึ่งเป็นการตรวจสอบเซลล์บริเวณปากมดลูกเพื่อหาเซลล์ที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นการตรวจคัดกรองเมื่อโรคได้เกิดขึ้นแล้ว
  3.  Vaccine ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวี ซึ่งหากจะฉีดวัคซีนให้ได้ผลและเกิดประโยชน์มากที่สุดนั้น ควรฉีดก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก หรือตั้งแต่ในเด็กอายุตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไป

 

Thailand HPV cervical cancer free

#เอชพีวีไม่รู้ไม่ได้แล้ว

รู้จัก ตรวจเช็ก ป้องกัน "ไวรัสเอชพีวี" ให้เมืองไทยปลอดโรคมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูก เกิดจาก ไวรัส ไม่ใช่ กรรมพันธุ์
มะเร็งปากมดลูก เป็นหนึ่งในมะเร็งเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถ ป้องกันได้
 
โรคมะเร็งปากมดลูก ไม่แสดงอาการจนกว่าโรคจะพัฒนาจนร้ายแรง 
แต่หากตรวจพบเร็ว จะมีโอกาสรักษาให้หายสูงถึงร้อยละ 98 ซึ่งวิธีการป้องกันไม่ยากเลย...
 
สาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก เกิดจากเชื้อ HPV 
เชื้อ Human Papilloma virus หรือ “HPV” เป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งปากมดลูก มีประมาณ 14 สายพันธุ์ ที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อมะเร็งปากมดลูก โดยสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้มากที่สุดถึง 70% และมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ มากกว่าคนที่ไม่ติดเชื้อ HPV ถึง 35 เท่า 
 
เราติดเชื้อ HPV จากที่ไหนบ้าง         
การติดเชื้อ HPV ที่พบบ่อย คือ การสัมผัสทางผิวหนัง เพราะฉะนั้นเพศสัมพันธ์จึงเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ติดเชื้อ HPV บริเวณปากมดลูก และอวัยวะเพศส่วนอื่นๆ รวมทั้งทวารหนัก อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อ HPV เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย และเป็นเรื่องธรรมดาสามัญซึ่ง 80% ของผู้หญิงเคยมีเชื้อ หรือกำลังมีเชื้อ HPV อยู่ในร่างกายโดยไม่รู้ตัว ถ้าร่างกายแข็งแรงเชื้อ HPV จะถูกกำจัดออกไปได้เอง แต่ถ้าร่างกายอ่อนแอการติดเชื้อดังกล่าวอาจพัฒนากลายไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ 
 
 
ดังนั้นเมื่อเราป้องกันไวรัส HPV ได้ ก็เท่ากับป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้
 

 
ตรวจก่อนพบ เพื่อให้แพทย์ได้ควบคุมความเสี่ยง
ณ ปัจจุบัน มีวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงด้วยการตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA) เพื่อจะบอกให้แพทย์ทราบว่าคุณเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ก่อนที่แพปสเมียร์จะสามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงในเซลล์ ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 10 ปี ถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และบางครั้งกว่าจะตรวจพบก็เข้าสู่มะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว ดังนั้นแนะนำให้สตรีในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือในกลุ่มสตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งสามารถตรวจได้ถึง 14 สายพันธุ์ และสามารถระบุได้ว่าเป็นการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 ที่มีความเสี่ยงสูงในการพัฒนารอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากการติดเชื้อ HPV มักไม่แสดงอาการ การตรวจหารอยโรคก่อนมะเร็งแต่เนิ่นๆจะช่วยให้แพทย์ควบคุมความเสี่ยงของคุณในการเป็นมะเร็งปากมดลูก และตัดสินใจเลือกวิธีรักษาโดยมีข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยชีวิตคุณได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม สตรีที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ก็ยังต้องเข้ารับบริการตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอทุกปี เพื่อปกป้องตนเองจากเชื้อไวรัส HPV และโรคมะเร็งปากมดลูก ภัยร้ายที่แฝงตัวอยู่ใกล้ตัวเรา
 
 
สร้างเกราะป้องกัน ด้วยการลดพฤติกรรมเสี่ยง และรับวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวี 
ปัจจุบันมีวัคซีนที่ป้องกันการติดเชื้อ HPV ซึ่งมีการใช้อย่างแพร่หลายในต่างประเทศทั่วโลก โดยสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยที่องค์การอนามัยโลกระบุว่าเหมาะสมที่สุดในการป้องกันหากได้รับวัคซีนตั้งแต่ในช่วงอายุนี้ ต่อไปเมื่อเติบโตขึ้นเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ จะได้มีภูมิคุ้มกันเตรียมพร้อมแล้ว ทั้งนี้การรับวัคซีนแนะนำให้ฉีดในสตรีอายุ 9-26 ปี โดยในเด็กช่วงอายุ 9-15 ปี รับวัคซีน 2 เข็ม ในเดือนที่ 0 และ 6  หากสตรีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป รับวัคซีน 3 เข็ม ในเดือนที่ 0, 1-2 และ 6 สำหรับสตรีที่อายุเกิน 26 ปี หรือคนที่เป็นโรคแล้ว สามารถรับวัคซีนได้แต่อาจได้รับประโยชน์น้อยลง หากเคยติดเชื้อเอชพีวีมาแล้ว อย่างไรก็ตาม หากเลยช่วงอายุดังกล่าวก็สามารถรับวัคซีนได้จนถึงช่วงอายุ 45 ปี หรือเข้ารับการปรึกษาแพทย์เพื่อให้คำแนะนำก่อนรับวัคซีน