ศูนย์การรักษา ศูนย์การรักษา
มะเร็งวิทยา ศูนย์มะเร็งวิทยา
ศูนย์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
ให้บริการตรวจวินิจฉัยรักษาโรคมะเร็งสำหรับประชาชนอย่างครบวงจร โดยได้พัฒนายกระดับการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้มาตรฐานสากล ด้วยเทคโนโลยีอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ประสิทธิภาพขั้นสูง และพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรทุกระดับ ให้สามารถประเมินความเสี่ยง ตรวจคัดกรอง วินิจฉัย ประเมินระยะของโรค และการติดตามค้นหารอยโรคที่กลับเป็นซ้ำได้อย่าง รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ รวมทั้งการกำหนดแผนการรักษาโดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (Tumor Board) เพื่อร่วมกันพิจารณาตัดสินแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย การรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งการผ่าตัด การฉายรังสี การให้ยาเคมีบำบัด การรักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy) การตรวจวินิจฉัยและรักษามะเร็งด้วยเวชศาสตร์นิวเคลียร์ หัตถการรักษามะเร็ง และการรักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โดยทีมสหสาขาวิชาชีพที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง
ปัจจุบันโรงพยาบาลจุฬาภรณ์มีเทคโนโลยีเครื่องทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานในระดับสากลทัดเทียมนานาประเทศครบทุกมิติของการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง และมีบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งในหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา มะเร็งวิทยานรีเวช และศัลยแพทย์มะเร็งสาขาต่างๆ พร้อมทีมให้การสนับสนุนทั้งแพทย์ในสาขาต่างๆ พยาบาลทั่วไป และพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง เภสัชกร นักโภชนากร นักกายภาพ นักรังสีเทคนิค เทคนิคการแพทย์ เวชศาสตร์การกีฬา และนักฟิสิกส์รังสี ภายใต้การดูแลรักษาร่วมกันแบบสหสาขาวิชาชีพ และมุ่งเน้นการสร้างงานวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการรักษาพยาบาล สร้างเครือข่ายความร่วมมือการใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง และพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ในสาขาที่ขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง สนองพระปณิธานและพระวิสัยทัศน์ใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานผู้ก่อตั้งโรงพยาบาล รวมทั้งทรงวางรากฐานการดำเนินงานด้านวิทยาศาสตร์ การค้นคว้าวิจัย การแพทย์นานัปการที่จะช่วยยกระดับการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้เกิดประโยชน์และความคุ้มค่าอย่างสูงสุด และมุ่งหวังให้เกิดการบูรณาการการรักษาโรคมะเร็งทุกภาคส่วนในการพัฒนาศักยภาพการตรวจรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทย เพื่อขยายโอกาสทางการรักษาแก่ประชาชนทุกกลุ่ม พร้อมทั้งผลักดันและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นเมดิคัลฮับ (Medical Hub) ด้านการรักษาโรคมะเร็งในภูมิภาคอาเซียน
บริการทางการแพทย์ด้านการตรวจรักษาโรคมะเร็ง
ศูนย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ให้บริการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งครบวงจรด้วยเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยและรักษาตามมาตรฐานสากล ควบคู่กับการศึกษาวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมการแพทย์ที่ก้าวหน้า ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสหสาขาวิชาเพื่อร่วมกันวางแผนวินิจฉัยรักษาโรคมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพที่ผู้ป่วยมะเร็งทุกสิทธิ์การรักษาสามารถเข้าถึงได้ พร้อมทั้งมีหน่วยงานสนับสนุนที่ให้บริการผู้ป่วยโรคมะเร็งก่อนการรักษา ระหว่างการรักษา และหลังการรักษา
คลินิกเฉพาะทางโรคมะเร็ง
- คลินิกอายุรกรรมโรคมะเร็ง
- คลินิกมะเร็งนรีเวช
- คลินิกมะเร็งตับและท่อน้ำดี
- คลินิกมะเร็งเต้านมคลินิกศัลยกรรมลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
- คลินิกมะเร็งกระดูกและเนื้อเยื่อ
- คลินิกเฉพาะทางโรคมะเร็งปอด
บริการทางการแพทย์ครบวงจรเพื่อการตรวจรักษาและดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง
- การตรวจสุขภาพและประเมินความเสี่ยงโรคมะเร็ง
- การตรวจทางรังสีวินิจฉัยและการใช้รังสีร่วมรักษา
- การตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องเพทสแกน
- การตรวจวินิจฉัยทางโมเลกุลโรคมะเร็ง
- การผ่าตัดรักษามะเร็งชนิดที่สามารถผ่าตัดได้
- การให้ยาเคมีบำบัด ยามุ่งเป้า ภูมิคุ้มกันบำบัด
- การฉายรังสีรักษามะเร็ง
- การตรวจรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์
- การวางแผนรักษาโรคมะเร็ง (Tumor Board) โดยทีมสหสาขาวิชาชีพ
- การบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง และการฟื้นฟูผู้ป่วยก่อนการรักษามะเร็ง (Preventive Rehabilitation)
- การดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยการแพทย์ผสมผสานและการรักษาแบบประคับประคอง (Palliative Care)
สำหรับผู้ป่วยมะเร็งใหม่
ที่ต้องการเข้ารับบริการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สามารถปรึกษาเพื่อวางแผนการเข้ารับการรักษามะเร็งและนัดหมายล่วงหน้าผ่านระบบ Teleconsultation for Oncology ในเมนู LINE Official Account โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อคัดกรองประวัติและอาการกับแพทย์ก่อนนัดหมายเข้ารับบริการต่อไปตามมาตรการหาหมอแบบ New Normal เพื่อประหยัดเวลาและลดการเดินทางมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น
เทคโนโลยีหุ่นยนต์ผสมยาเคมีบำบัด
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์นอกจากจะมุ่งเน้นการรักษาผู้ป่วยมะเร็งอย่างครบวงจรแล้ว การเลือกนำหุ่นยนต์ผสมยาเคมีบำบัดมาใช้ภายใต้การกำกับดูแลควบคู่กับองค์ความรู้ของเภสัชกร เพื่อพัฒนาศักยภาพในการบริการจึงนับเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในด้านการให้บริการ ด้วยนวัตกรรมหุ่นยนต์ผสมยาเคมีบำบัดแบบครบวงจรที่สั่งการทำงานด้วยแขนกล และควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์อัตโนมัติภายใต้สภาวะปลอดเชื้อ ตามมาตรฐานการเตรียมยา คำนวณปริมาณยาจากการชั่งน้ำหนัก ซึ่งมีความจำเพาะตามความหนาแน่นของยาแต่ละชนิด และมีการถ่ายภาพยืนยันชนิดยาที่เตรียม พร้อมระบบตรวจสอบความถูกต้องของส่วนผสมยาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำให้สูงขึ้น และได้มาตรฐานการเตรียมยาระดับสากล ทั้งนี้ หลักการทำงานและศักยภาพของหุ่นยนต์ผสมยาเคมีบำบัด จะทำได้ดีที่สุดกรณีที่เตรียมยาชนิดเดียวกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของโรงพยาบาลที่จะมีการวางแผนล่วงหน้าในการนัดผู้ป่วยที่ได้รับยาสูตรเดียวกัน มารับยาในวันเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยได้รับยารวดเร็ว ตรงตามเวลา ช่วยลดการแออัดและจัดระเบียบการให้บริการได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับบริการ ทั้งในด้านความถูกต้อง รวดเร็ว และปลอดภัย นอกจากนี้ หุ่นยนต์ผสมยาเคมีบำบัดแบบครบวงจรยังผ่านการรับรองมาตรฐานการบริหารความเสี่ยงสำหรับเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์จากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ทำให้ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในความถูกต้องและปลอดภัยให้แก่ผู้ป่วย การทำงานของหุ่นยนต์ผสมยา ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่ายาที่เตรียมสำหรับผู้ป่วยนั้น ถูกคน ถูกยา ถูกขนาดและมีความแม่นยำสูงแน่นอนและปลอดภัยทั้งกับผู้ปฏิบัติงานในการช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสยาโดยตรง
หน่วยเคมีบำบัดและการดูแลผู้ป่วย
ให้บริการผู้ป่วยที่ต้องรับการบำบัดด้วยเคมี เลือด และยาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคมะเร็งแก่ผู้ที่มีความสะดวกในการรับบริการแบบไม่พักค้างในโรงพยาบาล ประกอบด้วยห้องที่มีความเป็นส่วนตัว และเก้าอี้ที่สามารถปรับเอนได้ตามความต้องการ ในสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ไม่แออัด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น โดยทีมผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ผู้รับบริการและครอบครัวยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมบำบัดที่ทางโรงพยาบาลจัดให้ในแต่ละวัน
เทคโนโลยีการฉายรังสีรักษามะเร็ง
ศูนย์รังสีมะเร็งวิทยา ศูนย์รวมการรักษาโรคมะเร็งด้วยรังสีที่ครบครันและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
การฉายรังสีแบบสามมิติ (3D conformal radiation therapy) เป็นเทคนิคในการฉายรังสีโดยใช้ภาพจากเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และความก้าวหน้าในด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อจำลองการรักษาเสมือนจริงก่อนการรักษา เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ความแม่นยำในการฉายก้อนเนื้อมะเร็งมีมากขึ้น และรังสีโดนอวัยวะข้างเคียงลดลง แต่ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ในกรณีที่ก้อนเนื้อมะเร็งโอบล้อมหรืออยู่ใกล้อวัยวะปกติมาก เทคนิคการฉายแสงแบบสามมิตินี้ไม่สามารถจำกัดปริมาณแสงต่ออวัยวะนั้นได้
การฉายรังสีแบบสามมิติแปรความเข้ม (Intensity Modulated Radiotherapy) เป็นการฉายแสงแบบสามมิติ โดยเพิ่มเทคนิคในการปรับความเข้มของลำรังสี แก้ไขข้อจำกัดที่เกิดขึ้นในเทคนิคการฉายแสงแบบสามมิติได้ โดยควบคุมความเข้มของรังสีให้มีปริมาณความเข้มมากในบริเวณก้อนมะเร็งและมีความเข้มน้อยในบริเวณอวัยวะปกติ มีผลให้ปริมาณรังสีที่บริเวณอวัยวะปกติได้รับน้อยลง โดยไม่ลดปริมาณรังสีต่อก้อนมะเร็ง และมีผลข้างเคียงหลังการฉายรังสีน้อยลง
รังสีรักษาภาพนำวิถี (Image guided radiation therapy) แม้ว่าการวางแผนการรักษาด้วยเทคนิครังสีสามมิติ และรังสีสามมิติแปรความเข้มจะวางแผนในภาพสามมิติที่ได้มาจากการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ก็ตาม แต่ก็เป็นภาพนิ่งในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ในความเป็นจริงตำแหน่งของก้อนมะเร็งและอวัยวะภายในยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในระหว่างการฉายรังสีแต่ละครั้ง ทั้งนี้ จากการขยับของอวัยวะภายในและก้อนมะเร็งเอง หรือจากที่ขนาดของก้อนมะเร็งมีการเปลี่ยนแปลงไปทำให้ก้อนมะเร็งอาจหลุดออกจากตำแหน่งเดิมและไม่ได้รับปริมาณรังสีตามที่วางแผนไว้ ดังนั้น เพื่อให้ก้อนมะเร็งได้รับปริมาณรังสีตรงตามแผนการรักษาในปัจจุบันทั้ งเทคนิคการฉายรังสีแบบสามมิติ และรังสีสามมิติแบบปรับความเข้ม ได้กำหนดให้มีการตรวจสอบตำแหน่งของเนื้องอกในแต่ละวันของการรักษาด้วยภาพเอกซเรย์ก่อนฉายรังสี เรียกว่ารังสีรักษาภาพนำวิถี หากมีความคลาดเคลื่อนของตำแหน่งก้อนมะเร็งจากที่วางแผนไว้ จะมีการแก้ไขตำแหน่งให้ถูกต้องก่อนฉายรังสี หรือถ้าก้อนมะเร็งมีการเปลี่ยนแปลงขนาดระหว่างฉายรังสีมากจนแผนการฉายรังสีเดิมไม่เหมาะสม แพทย์จะพิจารณาปรับแผนการฉายรังสีให้เหมาะกับขนาดก้อนที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน
เครื่องฉายรังสี รุ่น Ethos แห่งแรกในอาเซียน แม่นยำรักษาตรงจุด
- ลดปริมาณรังสีต่ออวัยวะข้างเคียง
- เช็กตำแหน่งก่อนฉายรังสีด้วยภาพ 3 มิติ แม่นยำลดความคลาดเคลื่อน
- AI ช่วยปรับแผนการฉายรังสีให้เข้ากับก้อนมะเร็งที่เปลี่ยนแปลง
- หัวฉายรังสีหมุนเร็วขึ้นลดเวลาฉายรังสี
- เตียงปรับระดับสูง - ต่ำตามความสะดวกของผู้ป่วย
- หัวฉายรังสีหมุนเร็วขึ้นลดเวลาฉายรังสี
ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันบำบัด หรือ Immunotherapy
- ใช้ในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
- ยับยั้งกระบวนการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของเซลล์มะเร็ง
- เพิ่มประสิทธิภาพให้เม็ดเลือดขาวและภูมิคุ้มกันเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันบำบัด หรือ Immunotherapy สามารถใช้ในมะเร็ง
- มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา (melanoma) พิจารณาใช้เป็นการรักษาเสริมหลังผ่าตัด หรือ ในระยะลุกลาม
- มะเร็งศีรษะและลำคอ ในระยะลุกลามที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาเคมีบำบัด
- มะเร็งปอด พิจารณาใช้เป็นการรักษาเสริมหลังผ่าตัด หรือ ในระยะลุกลาม โดยใช้ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันเพียงตัวเดียวหรือร่วมกับยาเคมีบำบัด
- มะเร็งเต้านม ชนิด triple negative ใช้ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันร่วมกับยาเคมีบำบัด ก่อนการผ่าตัด หรือ ในระยะลุกลาม
- มะเร็งหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร ใช้ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันร่วมกับยาเคมีบำบัด ในระยะลุกลาม
- มะเร็งไต ระยะลุกลามที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยามุ่งเป้า
- มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ระยะลุกลามที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาเคมีบำบัด
- มะเร็งตับ ระยะลุกลาม ใช้ร่วมกับยามุ่งเป้า หรือ ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันบำบัด 2 ชนิดร่วมกัน
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ที่มีการกลับเป็นซ้ำหรือดื้อต่อการรักษาด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกและการรักษาด้วยยามุ่งเป้า
ผลข้างเคียงของการใช้ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันบำบัด
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย มากกว่าร้อยละ 10
- อาการอ่อนเพลีย
- ลำไส้อักเสบ (ปวดท้อง ท้องเสีย)
- ผิวหนังอักเสบ (คัน ผื่นแดง)
ผลข้างเคียงที่พบน้อย
- ปอดอักเสบ (ไอ เหนื่อย)
- ตับอักเสบ (ไข้ ปวดท้อง)
- ต่อมไทรอยด์อักเสบ (ฮอร์โมนไทรอยด์ขาด หรือ เกิน)
- ต่อมหมวกไตอักเสบ (อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า)
การปฏิบัติตัวเมื่อสงสัยผลข้างเคียงจากยาภูมิคุ้มกันบำบัด
เนื่องจากยาภูมิคุ้มกันบำบัดในการรักษาโรคมะเร็งเป็นแนวทางการรักษาแบบใหม่ ดังนั้นผู้ป่วยและญาติ จึงควร
- ศึกษารายละเอียดของยาจากแพทย์ผู้ให้การรักษา และ/หรือแหล่งความรู้ที่น่าเชื่อถือ
- ควรจดและจำชื่อยาที่กำลังได้รับ เพื่อช่วยให้การวินิจฉัยผลข้างเคียงจากยา และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ถูกต้องรวดเร็ว
- เฝ้าสังเกตอาการที่ผิดปกติ และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหากสงสัยผลข้างเคียงจากยา
- รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ
ภาพตัวอย่างระบบภูมิคุ้มกันของเซลล์มะเร็ง
การหลบหลีกระบบภูมิคุ้มกันของเซลล์มะเร็ง
การกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยยาภูมิคุ้มกันบำบัด หรือ Immunotherapy
(ดัดแปลงจาก nippon.com)
Contact
Phone:
อายุรกรรมมะเร็ง
0 2576 6229
เคมีบำบัด
0 25766196, 98
LINE:
LINE bot “ปรึกษาแพทย์โรคมะเร็ง
Service Hours
จันทร์ - ศุกร์
เวลา 08.00 - 16.00 น.
Location
ศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
Contact
Phone:
0 2576 6229-30
LINE:
LINE bot “ปรึกษาแพทย์โรคมะเร็ง
Service Hours
จันทร์ - ศุกร์
เวลา 08.00 - 16.00 น.